จากปัจจัยรอบตัวเราที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตช้า และมีความไม่แน่นอนสูง หรือภาพของคนที่อายุยืนขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลายคนเริ่มหวั่นใจถึงคุณภาพชีวิตในอนาคตของตนเอง
ตัวช่วยที่จะมาตอบโจทย์การมีคุณภาพชีวิตที่ดี ก็คือ การวางแผนทางการเงินแบบเป็นขั้นเป็นตอนตลอดช่วงชีวิตของเรา โดยหนึ่งในองค์ประกอบของการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล ก็คือ การวางแผนการลงทุน ซึ่งเป็นการประหยัดอดออมในวันนี้ ออมก่อนใช้ แล้วนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนในอนาคตตามที่คาดหวังภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้
อย่างไรก็ตาม ในแต่ละช่วงวัยมีระยะเวลาการลงทุนที่นานต่างกัน ทำให้สามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับที่ต่างกัน ดังนั้น เราจะพาไปดูแนวทางเบื้องต้นสำหรับการวางแผนลงทุนในช่วงวัยต่างๆ กันครับ
วัยซ่าส์ อายุ 20+
วัยซ่าส์เป็นวัยที่เพิ่งเริ่มทำงานหรือทำงานมาไม่นาน อายุ 20 – 29 ปี เป็นช่วงวัยที่ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ กล้าเปลี่ยนแปลง มีพลังชีวิตสูง วัยซ่าส์เป็นวัยที่ได้เปรียบสุดๆ เรื่องการลงทุน เพราะยังไม่มีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากนัก แถมยังเหลือระยะเวลาในการลงทุนนานที่สุดอีกด้วย ดังนั้น แม้จะออมต่อเดือนน้อยกว่า แต่ระยะเวลาออมนานกว่า ก็สามารถมีเงินมากกว่าคนวัยอื่นที่เริ่มออมช้าแต่ออมมากกว่าได้
อัตราการออม:
อย่างน้อย 10% – 20% ของรายได้
สัดส่วนการลงทุน:
แบ่งเงินลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูง เช่น หุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประมาณ 40% – 60% ของเงินลงทุนทั้งหมด
วัยแซ่บ อายุ 30+
วัยแซ่บเป็นวัยที่มีหน้าที่การงานมั่นคงขึ้น มีเงินเดือนสูงกว่าในช่วงตอนเริ่มทำงานพอสมควร แต่ก็อาจมีภาระมากขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นภาระในการเลี้ยงดูครอบครัว การผ่อนบ้าน เป็นต้น ดังนั้น ถ้าใครที่ยังไม่ได้มีภาระมากมาย หรือยังไม่มีลูก ให้พยายามออมเงินให้มากที่สุด เพราะพอมีลูกแล้ว ค่าใช้จ่ายจะตามมาอีกมากมาย
อัตราการออม:
อย่างน้อย 20% – 30% ของรายได้
สัดส่วนการลงทุน:
แบ่งเงินลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นต้น ประมาณ 30% – 50% ของเงินลงทุนทั้งหมด
วัยเผ็ด อายุ 40+
วัยเผ็ดเริ่มมีความมั่นคงในชีวิต งานดี เงินดี เชี่ยวชาญในงานที่ทำ หลายคนในวัยนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัวหรืออาจจะมากกว่าเมื่อเทียบกับตอนเริ่มทำงานใหม่ๆ โดยภาระค่าใช้จ่ายหลักน่าจะเป็นค่าใช้จ่ายการศึกษาของลูก ค่าดูแลพ่อแม่ และค่าผ่อนบ้านที่ยังเหลืออยู่
อัตราการออม:
อย่างน้อย 30% – 40% ของรายได้
สัดส่วนการลงทุน:
แบ่งเงินลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นต้น ประมาณ 20% – 40% ของเงินลงทุนทั้งหมด
วัยเด็ด อายุ 50+
วัยเด็ดเป็นช่วงวัยที่มั่นคงมั่งคั่งที่สุด หน้าที่การงานและรายได้อยู่ในจุดสูงสุดในชีวิต หลายคนได้เป็นผู้บริหารระดับสูงก็ในวัยนี้ วัยนี้แม้จะมีรายได้สูงขึ้นมาก แต่ภาษีสังคมก็มากตามไปด้วย ควรควบคุมค่าใช้จ่ายเพื่อเก็บออมเงินให้ได้ตามเป้าหมาย
อัตราการออม:
อย่างน้อย 40%-50% ของรายได้
สัดส่วนการลงทุน:
แบ่งเงินลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นต้น ประมาณ 10% – 20% ของเงินลงทุนทั้งหมด
สำหรับการออมและลงทุนของทุกช่วงวัย แนะนำให้ลงทุนผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ซึ่งสามารถนำเงินออมหรือเงินลงทุนมาหักลดหย่อนภาษีได้ด้วย โดยให้แบ่งเงินลงทุนบางส่วนในสินทรัพย์เสี่ยงสูง เช่น หุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว ซึ่งการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต้องขึ้นกับระดับการยอมรับความเสี่ยงของแต่ละคน
สำหรับการลงทุนใน RMF หรือการลงทุนเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น กองทุนรวมต่างๆ แนะนำให้ใช้เทคนิคการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย “Dollar-cost averaging (DCA)” ซึ่งเป็นการทยอยซื้อหรือลงทุนแบบอัตโนมัติเป็นรายเดือน ซึ่งเป็นเทคนิคที่ดีที่เน้นสร้างวินัยในการลงทุน
หากเราวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างสมาร์ท คุณภาพชีวิตที่ดีหลังเกษียณอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม แล้วเราก็จะมีชีวิตที่มั่นคงมั่งคั่งทั้งในปัจจุบัน แล้วก็มีความสุขทุกวันยันเกษียณเลยล่ะครับ