ทิสโก้มาสเตอร์ฟันด์
ทิสโก้มาสเตอร์ฟันด์ อิสระแห่งการลงทุนที่สมาชิกเลือกได้ (Employee's Choice)
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพประกอบไปด้วยสมาชิกจำนวนมาก ที่มีความคาดหวังในเรื่องผลตอบแทนและความสามารถในการรับความเสี่ยงในระดับที่แตกต่างกัน ซึ่งการมีเพียงหนึ่งนโยบายการลงทุนอาจไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด สำหรับสมาชิกกองทุนทุกรายเสมอไป ดังนั้น กฎหมายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจึงอนุญาตให้กองทุนสามารถมีหลายนโยบายการลงทุนภายใต้กองทุนเดียวกันได้ (“Master Fund”) เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกในกองทุนเดียวกันไม่จำเป็นต้องเลือกนโยบายการลงทุนที่เหมือนกันอีกต่อไป โดยสมาชิกแต่ละคนสามารถเลือกรูปแบบการลงทุนให้เหมาะสมกับอายุ อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ รวมถึงความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้
บลจ.ทิสโก้ จึงได้ริเริ่มการบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประเภท “มาสเตอร์ฟันด์ (Master Fund)” ซึ่งปัจจุบัน กองทุนประเภท Master Fund ทั้งประเภท “กองทุนเดี่ยว” (Single Fund) และประเภท “กองทุนร่วมทุน” (Pooled Fund)
ปัจจุบันบลจ. ทิสโก้ มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารการจัดการที่เติบโตขึ้นนอย่างต่อเนื่อง จากความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพในการบริหารกองทุนที่สร้างผลการดำเนินงานที่ดีอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งมีบริการที่ทำให้สมาชิกสามารถเปลี่ยนทางเลือกการลงทุนให้เหมาะกับทุกจังหวะชีวิต ได้สะดวก ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านบริการ Online ได้อีกด้วย
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ทิสโก้มาสเตอร์ร่วมทุน ซึ่งจดทะเบียนแล้ว (TISCO Master Pooled Registered Provident Fund) หรือเรียกสั้นๆ ว่า “MRT”
แต่ละนโยบายลงทุนอะไร?
MRT-ST นโยบายตราสารหนี้ระยะสั้น
นโยบายตราสารหนี้ระยะสั้น (Short term Fixed Income Fund)
มีนโยบายการลงทุนในส่วนใหญ่ในเงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้รัฐวิสาหกิจ และตราสารหนี้สถาบันการเงิน (ไม่ลงทุนตราสารหนี้ภาคเอกชน) โดยมีอายุเฉลี่ยของตราสารที่ลงทุนไม่เกิน 1 ปี เป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษาเงินต้น มีอัตราผลตอบแทนสม่ำเสมอ และคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวในระดับต่ำ และสามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราผลตอบแทนได้บ้าง
MRT-F นโยบายตราสารหนี้
นโยบายตราสารหนี้ (General Fixed-Income)
มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ ที่เน้นการลงทุนด้วยการฝากเงินและตราสารหนี้ทั่วไป ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตราสารหนี้บางประเภทของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ เช่น ตั๋วแลกเงิน (B/E) และหุ้นกู้ธนาคาร รวมถึงตราสารหนี้ภาคเอกชน เช่น ตั๋วแลกเงิน (B/E) และหุ้นกู้บริษัทเอกชน โดยปัจจัยที่มีผลต่อผลตอบแทนของกองทุน ได้แก่ ความมั่นคงของผู้ออกตราสารและการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงิน ซึ่งเป็นการลงทุนที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการรับรายได้จากการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ และคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวในระดับปานกลาง และสามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราผลตอบแทนได้บ้าง
MRT-MG นโยบายผสม (ทองคำไม่เกิน 10%)
นโยบายผสม (ทองคำ) (Mixed : Fixed Income + Gold ไม่เกิน 10%)
มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ ที่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไป และลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) เฉพาะกองทุนที่ลงทุนในกองทุนรวมทองคำ โดยลงทุนไม่เกินร้อยละ 10 โดยปัจจัยที่มีผลต่อผลตอบแทนของกองทุน ได้แก่ ความมั่นคงของผู้ออกตราสารและการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงิน การเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นการลงทุนที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการรับรายได้จากการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ และคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวในระดับปานกลาง-ค่อนข้างสูง และสามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราผลตอบแทนได้บ้าง
MRT-MR นโยบายหน่วยลงทุน – ผสม (REIT ไม่เกิน 20%)
นโยบายหน่วยลงทุน – ผสม (Mixed : Fixed-Income + REIT ไม่เกิน 20%)
MRT-GI นโยบายหน่วยลงทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ – ผสม
นโยบายหน่วยลงทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ – ผสม (Foreign Investment Fund - Mixed)
MRT-E นโยบายตราสารทุน
นโยบายตราสารทุน (Equity)
MRT-FIF นโยบายหน่วยลงทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ - ตราสารทุน
นโยบายหน่วยลงทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ - ตราสารทุน (Foreign Investment Fund - Equity)
MRT-HD นโยบายฟีดเดอร์ - ตราสารทุนไทย ไฮ ดิวิเดนด์
นโยบายฟีดเดอร์-ตราสารทุนไทย ไฮ ดิวิเดนด์ (Feeder-High Dividend Thai Equity)
ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ทิสโก้ ไฮ ดิวิเดนด์ หุ้นทุน ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน โดยจะลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนี SET High Dividend 30 Total Return Index ซึ่งมีมูลค่าตามราคาตลาดสูง (Market Capitalization) มีสภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอ และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงสุดและต่อเนื่อง นโยบายนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการมุ่งเน้นการเติบโตของเงินลงทุน และคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวในอัตราที่สูง และสามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราผลตอบแทนได้สูง
MRT-GQ นโยบายฟีดเดอร์-ตราสารทุนโกลบอล ควอลิตี้
นโยบายฟีดเดอร์-ตราสารทุนโกลบอล ควอลิตี้ (Feeder-Global Quality Equity)
ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล ควอลิตี้ อิควิตี้ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน โดยจะลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่มีมูลค่าตลาดขนาดกลางและขนาดใหญ่ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ที่มีปัจจัยทางด้านคุณภาพอยู่ในระดับสูง เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี MSCI World Sector Neutral Quality นโยบายนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงในภาวะที่ตลาดในประเทศมีความผันผวน โดยคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวในอัตราที่สูง และสามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราผลตอบแทนได้สูง
MRT-GQ (UH) นโยบายฟีดเดอร์-ตราสารทุนโกลบอล ควอลิตี้ (อันเฮดจ์)
นโยบายฟีดเดอร์-ตราสารทุนโกลบอล ควอลิตี้ (อันเฮดจ์) (Feeder-Global Quality Equity (Unhedged)
ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล ควอลิตี้ อิควิตี้ อันเฮดจ์ เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน โดยจะลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่มีมูลค่าตลาดขนาดกลางและขนาดใหญ่ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ที่มีปัจจัยทางด้านคุณภาพอยู่ในระดับสูง เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี MSCI World Sector Neutral 500 โดยนโยบายนี้จะไม่ได้มีการป้องกันความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน นโยบายนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงในภาวะที่ตลาดในประเทศมีความผันผวน โดยคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวในอัตราที่สูง และสามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราผลตอบแทนและอัตราแลกเปลี่ยนได้สูง
MRT-US นโยบายฟีดเดอร์-ตราสารทุนสหรัฐฯ
นโยบายฟีดเดอร์-ตราสารทุนสหรัฐฯ (Feeder-US Equity)
ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส อิควิตี้ ฟันด์ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน โดยจะมีการลงทุนในตราสารทุนสหรัฐฯ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 นโยบายนี้เป็นการลงทุนที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงในภาวะที่ตลาดในประเทศมีความผันผวน โดยคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวในอัตราที่สูง และสามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราผลตอบแทนได้สูง
MRT-US (UH) นโยบายฟีดเดอร์-ตราสารทุนสหรัฐฯ (อันเฮดจ์)
นโยบายฟีดเดอร์-ตราสารทุนสหรัฐฯ (อันเฮดจ์) (Feeder-US Equity (Unhedged))
ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส อิควิตี้ อันเฮดจ์ เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า
ร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน โดยจะมีการลงทุนในตราสารทุนสหรัฐฯ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 โดยนโยบายนี้จะไม่ได้มีการป้องกันความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน นโยบายนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงในภาวะที่ตลาดในประเทศมีความผันผวน โดยคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวในอัตราที่สูง และสามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราผลตอบแทนและอัตราแลกเปลี่ยนได้สูง
MRT-NASDAQ นโยบายฟีดเดอร์-ตราสารทุนแนสแดค
นโยบายฟีดเดอร์-ตราสารทุนแนสแดค (Feeder-NASDAQ Equity)
ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส แนสแดค อิควิตี้ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน โดยจะมีการลงทุนในบริษัทสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ที่ไม่ใช่สถาบันการเงินที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงที่สุด 100 อันดับแรกที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แนสแดค (Nasdaq) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทเทคโนโลยี เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Nasdaq-100 นโยบายนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงในภาวะที่ตลาดในประเทศมีความผันผวน โดยคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวในอัตราที่สูง และสามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราผลตอบแทนได้สูง
MRT-EU นโยบายฟีดเดอร์-ตราสารทุนยุโรป
นโยบายฟีดเดอร์-ตราสารทุนยุโรป (Feeder-Europe Equity)
ลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุนเปิด ทิสโก้ ยุโรป อิควิตี้ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน โดยจะมีการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทชั้นนำในภูมิภาคยุโรป เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี EURO STOXX 50 นโยบายนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงในภาวะที่ตลาดในประเทศมีความผันผวน โดยคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวในอัตราที่สูง และสามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราผลตอบแทนได้สูง
MRT-ASIA นโยบายฟีดเดอร์-ตราสารทุนเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น)
นโยบายฟีดเดอร์-ตราสารทุนเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) (Feeder-Asia Equity (Ex. Japan))
ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ทิสโก้ เอเชีย อิควิตี้ เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน โดยจะลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่ชั้นนำที่จดทะเบียนจัดตั้งหรือจดทะเบียนซื้อ ขายหรือดําเนินธุรกิจหลักในภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) นโยบายนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงในภาวะที่ตลาดในประเทศมีความผันผวน โดยคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวในอัตราที่สูง และสามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราผลตอบแทนได้สูง
MRT-JP นโยบายฟีดเดอร์-ตราสารทุนญี่ปุ่น
นโยบายฟีดเดอร์-ตราสารทุนญี่ปุ่น (Feeder-Japan Equity)
ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน อิควิตี้ เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน โดยจะลงทุนในตราสารทุนของบริษัทชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Nikkei 225 ซึ่งเป็นการลงทุนที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงในภาวะที่ตลาดในประเทศมีความผันผวน โดยคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวในอัตราที่สูง และสามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราผลตอบแทนได้สูง
ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้วยทางเลือกการลงทุนที่หลากหลาย
จากนโยบายการลงทุนตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ทิสโก้ได้กำหนดรูปแบบทางเลือกมาตรฐาน (Standard Option) ซึ่งคาดว่าสามารถครอบคลุมความต้องการส่วนใหญ่ของสมาชิก และเพื่อให้ง่ายต่อคณะกรรมการกองทุนในการสื่อสารถึงสมาชิกกองทุน ในกรณีที่ให้สมาชิกเลือกนโยบายการลงทุนด้วยตนเอง
อย่างไรก็ตาม ทิสโก้ยังสามารถตอบสนองความต้องการของสมาชิกได้อย่างเต็มรูปแบบโดยมีรูปแบบ “Free Style” ซึ่งสมาชิกสามารถกำหนดสัดส่วนการลงทุนได้ตามต้องการ
สนใจจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือพิจารณาเลือกบริษัทจัดการกองทุน
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
02 633 6161 หรืออีเมล์ tasset_pvd@tisco.co.th