
Thai ESGX กองทุนลดหย่อนภาษีน้องใหม่ ปี 2568




Q&A กองทุน ThaiESGX
(ข้อมูล ณ วันที่ 1 เมษายน 2568)
กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thailand ESG Extra Fund : Thai ESGX) เป็นกองทุนรวมที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี รองรับการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF และเงินลงทุนใหม่ สำหรับการลงทุนในช่วงเวลาที่กำหนด 2 เดือน
ทั้งนี้ Thai ESGX ต้องลงทุนในทรัพย์สินที่ออกโดยผู้ออกหรือกิจการในประเทศไทยที่มีคุณสมบัติด้าน ความยั่งยืนตามหลักเกณฑ์เดียวกันกับกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV โดยจะต้องลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืน โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อย กว่าร้อยละ 65 ของ NAV
ประเภทสินทรัพย์ที่ Thai ESGX ต้องลงทุนในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV ประกอบด้วย
(1) หุ้นกลุ่มความยั่งยืนใน SET หรือ mai ไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของ NAV
(2) ตราสารหนี้ในกลุ่มความยั่งยืน
(3) โทเคนดิจิทัลเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน
สิทธิประโยชน์ทางภาษีแบ่งออกเป็น 2 วงเงินใหม่ โดยไม่รวมกับกองทุนและประกันเพื่อรองรับการเกษียณ การทำงานอื่น ๆ ภายใต้เงื่อนไข ดังนี้
Thai ESGX (วงเงินลดหย่อนที่ 1) สำหรับเงินใหม่ที่บุคคลธรรมดาลงทุนในกองทุน Thai ESGX เฉพาะปี 2568 สูงสุด 300,000 บาท
– วงเงินลดหย่อน : ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท (เฉพาะปี 2568)
– ระยะเวลาลงทุน : เปิดระยะให้ลงทุนภายใน 2 เดือน (คาดว่าเริ่มเปิดขายหน่วยได้ทุกวันทำการ ของเดือน พ.ค. – มิ.ย. 68)
– การถือครอง : ไม่น้อยกว่า 5 ปี (วันชนวัน นับแต่วันที่ลงทุน)
Thai ESGX (วงเงินลดหย่อนที่ 2) สำหรับผู้ลงทุนที่สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม ที่ถือทั้งหมดใน LTF ทุกกองทุนในทุก บลจ. มาเป็นหน่วยลงทุนของ Thai ESGX เพื่อรับเงินสิทธิลดหย่อนสำหรับ LTF เดิม สูงสุด 500,000 บาท
– วงเงินลดหย่อน : สูงสุด 500,000 บาท รวม ทยอยลดหย่อน 5 ปี ตั้งแต่ปีภาษี 2568 – 2572
ข้อมูล ณ วันที่ 11 มีนาคม 2568
✓ ปีแรก (2568) : สูงสุด 300,000 บาท
✓ ปีที่ 2 – 5 (2569 – 2572) : ให้ได้รับยกเว้นเป็นจำนวนเท่า ๆ กันในแต่ละปีภาษี
– หน่วยลงทุนที่มีสิทธิ : หน่วยลงทุนที่ผู้ถือหน่วย LTF ถือครอง ณ วันที่ ครม. มีมติอนุมัติมาตรการ ข้างต้น (ไม่รวม class หน่วยภาษีอื่นภายใต้กองทุนเดียวกัน เช่น class SSF)
หมายเหตุ : ผู้ถือหน่วย LTF ที่ประสงค์ใช้สิทธิลดหย่อน ต้องสับเปลี่ยนจาก LTF ทุกกองทุน ในทุก บลจ. มา Thai ESGX ในช่วงระยะเวลาการสับเปลี่ยนที่กำหนด หากสับเปลี่ยนมาไม่ครบ จะไม่มีสิทธิใช้วงเงินลดหย่อนที่ 2 ได้
– การถือครอง : Thai ESGX ที่สับเปลี่ยนจาก LTF รวมทั้งหมด ต้องถือครองไม่น้อยกว่า 5 ปี (วันชนวันนับจากวันที่ส่งคำสั่งสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม มายังกองทุน Thai ESGX)
หมายเหตุ : การขายหน่วยลงทุนก่อนครบระยะเวลา 5 ปี จะต้องคืนเงินภาษีที่ได้รับการยกเว้น และมีเบี้ยปรับตามที่กฎหมายหรือกฎเกณฑ์กำหนด นอกจากนี้ หากมีกำไรจากการขายหน่วยจะต้องนำกำไรนั้นมาคำนวณภาษีเงินได้ตามหลักเกณฑ์ทางภาษีด้วย
– ระยะเวลาในการสับเปลี่ยน : ภายใน 2 เดือน (คาดว่าเป็นช่วงเดียวกันกับการเปิดขายหน่วย Thai ESGX (วงเงินลดหย่อนที่ 1) คือ เริ่มเปิดให้สับเปลี่ยนหน่วย LTF มาเป็น Thai ESGX ได้ทุกวันทำการของเดือน พ.ค. – มิ.ย. 68)
ทั้งนี้ การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด
- วงเงินลดหย่อนที่ 1 สำหรับเงินใหม่ที่บุคคลธรรมดาลงทุนในกองทุน Thai ESGX ในช่วงเวลาที่เปิดขายหน่วยไม่เกิน 2 เดือน (คาดว่า พ.ค. – มิ.ย. ปี 2568) ลดหย่อนสูงสุด 300,000 บาท
– ผู้ลงทุนทุกคนที่เป็นผู้เสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ซึ่งรวมถึงผู้ถือหน่วย LTF ที่อยากลงทุนเพิ่มเติมนอกเหนือจากการได้รับสิทธิจากวงเงินลดหย่อนที่ 2 ด้วย - วงเงินลดหย่อนที่ 2 สำหรับการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม มากองทุน Thai ESGX เพื่อรับเงินลดหย่อนสำหรับ LTF เดิม ลดหย่อนสูงสุด 500,000 บาท
– ผู้ถือหน่วยกองทุนรวม LTF ที่มีชื่อเป็นผู้ถือหน่วยลงทุน ณ วันที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติ ที่ได้สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ทั้งหมดในทุกกองทุน ทุก บลจ. ของผู้ถือหน่วยลงทุนรายนั้น ๆ มาเป็นหน่วยลงทุน Thai ESGX
หากต้องการใช้สิทธิลดหย่อนวงเงินที่ 2 จะต้องสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ทั้งหมดในทุกกองทุน ทุก บลจ. ของผู้ถือหน่วยลงทุนรายนั้น ๆ มาเป็นหน่วยลงทุน Thai ESGX โดยหน่วยลงทุนที่สับเปลี่ยนมาแล้วรวมทั้งหมด ต้องถือครองตามเงื่อนไข ไม่น้อยกว่า 5 ปีด้วย (วันชนวัน นับจากวันที่ส่งคำสั่งสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม มากองทุน Thai ESGX)
ใช่ Thai ESGX วงเงินลดหย่อนที่ 1 ให้สิทธิลดหย่อนเฉพาะในปี 2568
– วงเงินลดหย่อนจากการลงทุนในช่วงระยะเวลา 2 เดือน ที่กำหนดในปี 2568 จะเป็นวงเงินสิทธิประโยชน์ทางภาษีแยกจากการลงทุนในกองทุน Thai ESG ปกติ
– ทั้งนี้ Thai ESGX จะสามารถเปิดขายได้อีกครั้งตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป โดย Thai ESG และ Thai ESGX จะใช้วงเงินลดหย่อนเดียวกัน
ทั้งนี้ ในปี 2568 มีกองทุนรวมกลุ่ม Thai ESG ที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี 3 วงเงิน รวมสูงสุดไม่เกิน 900,000 บาท ดังนี้
1) เงินลงทุนใหม่สำหรับผู้ลงทุนทุกรายที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Thai ESG ในปัจจุบัน โดยลดหย่อนไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท
2) เงินลงทุนใหม่สำหรับผู้ลงทุนทุกรายที่ลงทุนใน Thai ESGX ในช่วงระยะเวลา 2 เดือนที่เปิดขายใน ปี 2568 โดยลดหย่อนไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท
3) สำหรับผู้ถือหน่วย LTF ที่สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจาก LTF ทุกกองทุนไป Thai ESGX โดยมีวงเงินลดหย่อน ดังนี้
✓ ปีแรก (2568) : สูงสุด 300,000 บาท
✓ ปีที่ 2 – 5 (2569 – 2572) : ให้ได้รับยกเว้นเป็นจำนวนเท่า ๆ กันในแต่ละปีภาษี
Thai ESGX 300,000 บาท (สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม) และ Thai ESGX (เงินใหม่เฉพาะปี 2568) 300,000 บาท ใช่หรือไม่
ใช่ โดยการกำหนดเพดาน 30% ของเงินได้พึงประเมินนั้น จะเป็นเงื่อนไขเฉพาะเงินใหม่ที่ซื้อหน่วย Thai ESG และ Thai ESGX สำหรับวงเงินลดหย่อนสำหรับการสับเปลี่ยนหน่วย LTF เดิม นั้นไม่มีการกำหนดเพดาน 30% ของเงินได้พึงประเมิน
(3) Thai ESGX วงเงินสับเปลี่ยน LTF จำนวน 300,000 บาท สำหรับปี 2568 รวมทั้งสิ้น 900,000 บาท แยกจากวงเงินลดหย่อนของ RMF หรือไม่
แยกจาก RMF
หน่วยลงทุนชนิด SSF ที่อยู่ภายใต้ LTF จะไม่สามารถรับสิทธิประโยชน์ภาษีจากมาตรการนี้
การซื้อหน่วย Thai ESGX ตั้งแต่ปี 2569 จะถือว่าเป็นวงเงินลดหย่อนเดียวกับวงเงินลดหย่อน Thai ESG เดิม โดยวงเงินลดหย่อนของ Thai ESG ในปี 2569 สามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 300,000 บาท และไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และต้องถือครองหน่วยลงทุนเป็นระยะเวลา 5 ปี (นับแบบวันชนวัน)
สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนที่ลงทุนในวงเงินลดหย่อนที่ 1 (วงเงินใหม่) นับตั้งแต่วันที่ลงทุน โดยต้องถือครองหน่วยลงทุน Thai ESGX เป็นระยะเวลา 5 ปี (นับแบบวันชนวัน)
ทั้งนี้ สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนในวงเงินลดหย่อนที่ 2 ต้องถือครองหน่วยลงทุน Thai ESGX นับตั้งแต่วันที่แจ้งประสงค์สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF มาเป็น Thai ESGX เป็นระยะเวลา 5 ปี (นับแบบวันชนวัน)
วงเงินลดหย่อนที่ 1 เงินใหม่ เฉพาะปี 2568
สามารถขายได้ ทั้งนี้ หากการขายนั้นมี capital gain ผู้ถือหน่วยลงทุนจะต้องยื่นข้อมูลภาษีและ ต้องเสียภาษีตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด เช่นเดียวกับกองทุนลดหย่อนภาษีอื่น เช่น RMF เป็นต้น
ได้ โดยการเสนอขายหน่วยลงทุน Thai ESGX จะเปิดขายในช่วงระยะเวลา 2 เดือน ประมาณเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2568 เท่านั้น
วงเงินลดหย่อนที่ 2 สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิมเป็น Thai ESGX
Thai ESG 300,000 บาท หน่วย LTF ที่เหลือจะโอนไป Thai ESGX เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีสำหรับวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท ได้หรือไม่
ไม่ได้ หากต้องการใช้สิทธิวงเงินลดหย่อน 500,000 บาท จะต้องโอนหน่วยลงทุน LTF ที่ถือครองทั้งหมดไปยัง Thai ESGX โดยไม่สามารถแบ่งขายหน่วยลงทุน LTF ได้
ปีที่ 2 – 5 ให้ได้รับยกเว้นเป็นจำนวนเท่า ๆ กันในแต่ละปีภาษี
กรณีผู้ลงทุนประสงค์จะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี จะต้องสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ทั้งหมดในทุกกองทุน ทุก บลจ. ไปเป็นหน่วยลงทุน Thai ESGX
ผู้ถือหน่วยลงทุน LTF ต้องสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ทั้งหมดใน 2 บลจ. ไปเป็นหน่วยลงทุน ThaiESGX (โดยอาจพิจารณาสับเปลี่ยนไปยัง Thai ESGX กองเดียว หรือ 2 กองก็ได้ ทั้งนี้ ขึ้นกับเงื่อนไขการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของแต่ละ บลจ. ว่าจะรับสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนข้าม บลจ. หรือไม่)
300,000 บาท สำหรับปีภาษี 2568 โดยสำหรับปีภาษี 2569 – 2572 ให้ได้รับยกเว้นเป็นจำนวนเท่า ๆ กัน ในแต่ละปีภาษี กล่าวคือ ปีละ 12,500 บาท ทั้งนี้ หากมีการขายหรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ใด ๆ ตั้งแต่วันที่12 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป ผู้ถือหน่วยลงทุน LTF รายดังกล่าว จะไม่เข้าเงื่อนไขได้รับสิทธิในการใช้วงเงินลดหย่อนที่ 2
คิดจากมูลค่า NAV ณ วัน trade date ที่สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เป็น Thai ESGX
กรณีผู้ลงทุนประสงค์จะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี การขายหน่วยลงทุน LTF ภายหลังวันที่ 11 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป จะทำให้ไม่เข้าเงื่อนไขได้รับสิทธิในการใช้วงเงิน
ลดหย่อนที่ 2
ขอให้ผู้ลงทุนศึกษารายละเอียดเงื่อนไขภาษีของ LTF ที่กรมสรรพากรกำหนด
(1) กรณีผู้ถือหน่วยลงทุน LTF ประสงค์จะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้มาตรการ Thai ESGX จะต้องสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ทั้งหมดที่ถืออยู่ ณ วันที่ ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการ Thai ESGX (วันที่ 11 มีนาคม 2568) ซึ่งรวมถึงหน่วยลงทุน LTF ที่ซื้อตั้งแต่ปี 2563 เป็นหน่วยลงทุน Thai ESGX ด้วย
(2) หน่วยลงทุน LTF ที่ซื้อหลังวันที่ 11 มีนาคม 2568 จะไม่ถูกนับรวมเป็นหน่วยลงทุน LTF ที่มีสิทธิภายใต้โครงการ Thai ESGX เนื่องจากเป็นหน่วยลงทุนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนถือครองภายหลังวันที่ ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการทางภาษีสำหรับ Thai ESGX (วันที่ 11 มีนาคม 2568)
ไม่ได้ หากผู้ถือหน่วยลงทุน LTF ประสงค์จะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีวงเงินลดหย่อนที่ 2 จะต้อง ไม่ขายหรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ภายหลังวันที่ 11 มีนาคม 2568 ถึงแม้กองทุนปลายทางจะเป็นกองทุน LTF เหมือนกัน เนื่องจากไม่สอดคล้องกับหลักการที่กำหนดให้ LTF ต้อง pay in kind ให้ Thai ESGX
- ถ้าเช้าวันที่ 11 มีนาคม 2568 มี LTF 40,000 หน่วย
- ระหว่างวันที่ 11 มีนาคม 2568 มีการส่งคำสั่งขาย LTF 10,000 หน่วย
- เช้าวันที่ 12 มีนาคม 2568 มี LTF เหลือ 30,000 หน่วย
จากตัวอย่างข้างต้น หน่วยลงทุนที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี มีจำนวนเท่าใด
หน่วยลงทุน LTF ที่จะสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้มาตรการ Thai ESGX คือ 30,000 หน่วย และหากผู้ถือหน่วยลงทุนส่งคำสั่งขายหรือสับเปลี่ยน ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป จะไม่สามารถรับสิทธิประโยชน์ภาษีภายใต้มาตรการ Thai ES GX ได้
หลักเกณฑ์สำนักงานไม่ได้กำหนดห้ามการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนข้าม selling agent ทั้งนี้ ข้อตกลงใดๆ ระหว่าง บลจ. และ selling agent ไม่ควรเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนหรือการใช้สิทธิของผู้ถือหน่วยลงทุนจนเกินสมควร
มีค่าธรรมเนียมในการสับเปลี่ยนหรือไม่
หลักเกณฑ์สำนักงานไม่ได้ห้ามเรื่องการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ไป Thai ESGX ข้าม บลจ. อย่างไรก็ดี ขอให้ผู้ถือหน่วยลงทุนตรวจสอบกับ บลจ. แต่ละแห่ง ถึงเงื่อนไขการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนข้าม บลจ. และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง
ผู้ถือหน่วยลงทุน LTF สามารถทยอยส่งคำสั่งสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เป็น Thai ESGX ได้ เพียงแต่ต้องทำรายการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ให้ครบทุก บลจ. ภายในระยะเวลา 2 เดือนที่กำหนด (พฤษภาคม – มิถุนายน 2568)
ใช่ การนับ 5 ปี (นับแบบวันชนวัน) จะนับจากวันที่แจ้งสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF แต่ละก้อน
หากผู้ถือหน่วยลงทุน LTF ประสงค์จะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีวงเงินลดหย่อนที่ 2 จะต้องสับเปลี่ยนหน่วย LTF ไปยัง Thai ESGX ซึ่งนโยบายการลงทุนของ Thai ESGX ต้องลงทุนในทรัพย์สินที่ออก โดยผู้ออกหรือกิจการในประเทศไทยที่มีคุณสมบัติด้านความยั่งยืน โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV และมีข้อกำหนดการลงทุนเพิ่มเติมเฉพาะ Thai ESGX คือต้องลงทุนหุ้นกลุ่มความยั่งยืน โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของ NAV
สนใจลงทุนกับเรา
กรุณากรอกข้อมูลให้ถูกต้อง ครบถ้วน โดย บลจ.ทิสโก้จะติดต่อเพื่อให้คำแนะนำการลงทุนแก่ท่าน
ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรวบรวมใช้
และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ บลจ.ทิสโก้ จำกัด (“บริษัท”) ได้ ตามประกาศความเป็นส่วนตัวบนเว็บไซต์ของบริษัท

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่
- เบอร์โทร 0 2633 6000 กด 4 หรือ 0 2080 6000 กด 4
- แอปพลิเคชั่น TISCO My Funds
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.